
Wargaming คือการจำลงสถานการณ์ระหว่างคุณกับคู่แข่งล่วงหน้า เพื่อการรับมือ สมมติว่าคุณกำลังจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ แล้วทีมก็เริ่มถามว่า “ถ้าคู่แข่งลดราคาในวันเดียวกันล่ะ?” หรือ “ถ้าเขาใช้ influencer คนดังมาแย่งกระแสเราล่ะ?” แล้วคุณไม่มีคำตอบที่ชัดเจน มีแค่คำว่า “เดี๋ยวค่อยคิดอีกที”
ปัญหาคือ การรอให้สถานการณ์เกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยคิด ถือเป็นความเสี่ยงอย่างมหาศาล โดยเฉพาะในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนเร็ว คู่แข่งขยับตลอดเวลา และข้อมูลไหลเข้าไหลออกเร็วยิ่งกว่าสตอรี่ IG
นี่แหละคือเหตุผลที่เครื่องมือที่ชื่อว่า “Wargaming” ถูกหยิบมาใช้ในแวดวงการตลาด กลยุทธ์ และแม้แต่การเมือง เพื่อช่วยให้ทีมสามารถ “จำลองเหตุการณ์ล่วงหน้า” และวางแผนรับมืออย่างเป็นระบบก่อนที่ทุกอย่างจะเกิดขึ้นจริง
แม้ชื่อจะฟังดูเหมือนเกมสงครามในกองทัพ แต่นี่คือหนึ่งในเทคนิคที่แบรนด์ระดับโลกใช้กันจริงจัง เช่น Amazon, Microsoft, P&G หรือแม้แต่หน่วยข่าวกรองของประเทศต่าง ๆ ก็ใช้หลักการเดียวกันนี้ในการวางกลยุทธ์เพื่อเตรียมพร้อมในทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
Wargaming ไม่ใช่การคาดเดาแบบลอย ๆ แต่มันคือการสวมบทบาทของทั้งเราและคู่แข่ง แล้วเล่นเกมกลยุทธ์กันอย่างจริงจัง เพื่อให้เรามองเห็นมุมมองใหม่ ๆ จุดอ่อนของตัวเอง และโอกาสที่ไม่เคยคิดถึงมาก่อน
แล้ว Wargaming คืออะไรแน่ ๆ?
ในเชิงกลยุทธ์ Wargaming คือกระบวนการจำลองสถานการณ์การแข่งขันหรือความขัดแย้งผ่าน “การเล่นบทบาท” โดยแบ่งทีมออกเป็นฝั่งของเรา (เรียกว่า Blue Team) กับฝั่งของคู่แข่ง (Red Team) และบางกรณีอาจมีตัวกลางเพิ่มเติม เช่น ลูกค้า รัฐบาล หรือ Stakeholder อื่น ๆ ที่เรียกว่า Green Team
โดยแต่ละทีมจะได้รับข้อมูลและบริบทเดียวกัน แล้วให้เวลาวางแผน, ลงมือ, โต้กลับ และประเมินผล ซึ่งช่วยให้ทีมสามารถมองเห็นกลยุทธ์ที่อาจถูกใช้โจมตี รวมถึงทดลองแนวทางตอบโต้โดยไม่ต้องเสี่ยงลงสนามจริง
ที่น่าสนใจคือ วิธีนี้ไม่ได้ใช้เฉพาะในสถานการณ์สงครามหรือในองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น แต่สามารถประยุกต์ใช้ได้ตั้งแต่การวางแผนธุรกิจ การเปิดตัวสินค้าใหม่ การกำหนด Positioning ไปจนถึงการตอบโต้ Crisis
แล้ว Wargaming ใช้กับใคร ใช้ยังไง?
Wargaming ไม่ได้จำกัดแค่กองทัพหรือองค์กรระดับโลกเท่านั้น
แบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง Amazon, P&G, Microsoft หรือแม้แต่หน่วยข่าวกรอง CIA ก็ใช้ Wargaming ในการวางแผนเชิงกลยุทธ์
ตัวอย่างการใช้:
- Product Launch: ถ้าเราจะออกสินค้าใหม่ แล้วคู่แข่งลดราคาเพื่อสกัด เราจะทำยังไง?
- Market Entry: ถ้าเราขยายไปประเทศใหม่ แล้วคู่แข่งเก่าในพื้นที่จะตอบโต้ยังไง?
- Positioning War: ถ้าคู่แข่งเปลี่ยน Messaging มาเล่นเรื่อง sustainability ล่ะ?
ถ้าจะสรุปแบบง่าย ๆ Wargaming ช่วยเราเรื่องอะไรบ้าง?
- ทำให้ทีมเข้าใจกลยุทธ์ของตัวเองและของคู่แข่งแบบลึกขึ้น
- เตรียมแผนตอบโต้ล่วงหน้า ไม่ใช่รอให้เกิดเรื่องแล้วค่อยรีบแก้
- ทดสอบไอเดียใหม่ ๆ โดยไม่ต้องเสียเงินจริงหรือชื่อเสียง
- สร้าง Alignment ในทีม ให้ทุกคนมองเห็นภาพเดียวกัน
- สร้างวัฒนธรรมของ “การมองหลายมุม” แทนการคิดแค่จากฝั่งเราเอง
หนึ่งในสิ่งที่หลายองค์กรพลาดคือการคิดจากมุมมองของตัวเองมากเกินไป มั่นใจในกลยุทธ์ที่วางไว้อย่างหนักแน่นโดยไม่ได้คาดการณ์ว่า ฝั่งตรงข้ามจะคิดอย่างไร ถ้าคู่แข่ง “ไม่เล่นตามเกม” ที่คุณคาดไว้ แล้วคุณจะยังเอาตัวรอดได้หรือเปล่า?
ตัวอย่างจากโลกจริง
ลองย้อนกลับไปช่วงที่ Adidas พยายามกลับมาทวงคืนส่วนแบ่งตลาดในอเมริกา Nike เองก็รู้ว่าคู่แข่งรายนี้ไม่ธรรมดา และอาจมีลูกเล่นใหม่ ๆ ออกมา ทีมกลยุทธ์ของ Nike จึงเริ่มทำ Wargaming เพื่อสมมุติสถานการณ์ที่ Adidas จะใช้ เช่น การดึงดาราเข้ามาเป็น Ambassador การขยายช่องทาง Digital หรือการใช้ Campaign เชิงวัฒนธรรม
จากการเล่นเกมจำลองนั้นเอง Nike มองเห็นความเสี่ยงจากการพึ่งพาช่องทางค้าปลีกแบบเดิม ๆ จึงตัดสินใจเร่งสร้างแพลตฟอร์ม Direct-to-Consumer และเปิดตัว Nike App ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้แบรนด์ยังคงเป็นผู้นำในตลาดแม้ Adidas จะมาแรงแค่ไหนก็ตาม
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการคิดแผนสำรอง แต่เป็นการใช้ Wargaming เพื่อ “เห็นก่อนล่วงหน้า” และ “ขยับก่อนคนอื่น” ต่างหาก
แล้วองค์กรทั่วไปใช้ได้ไหม?
คำตอบคือ ใช้ได้แน่นอน ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจ SME หรือทีมการตลาดในบริษัทขนาดกลาง ก็สามารถใช้ ได้ ขอแค่มีโจทย์ มีทีม และมีความตั้งใจจะมองเกมให้ลึกขึ้น
วิธีเริ่มต้นง่าย ๆ คือเลือกสถานการณ์ที่คุณอยากจำลอง อาจเป็นการเปิดตัวสินค้าใหม่ การเข้าไปตีตลาดใหม่ หรือการตอบโต้คู่แข่งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จากนั้นแบ่งทีมเป็นฝั่งเราและฝั่งคู่แข่ง ลองให้แต่ละทีมวางแผนอย่างจริงจัง แล้วมาเล่นเกมกัน
สิ่งที่คุณจะได้ไม่ใช่แค่ “แผนรับมือ” แต่คือความเข้าใจใหม่ ๆ ที่จะเปลี่ยนวิธีคิดของทั้งทีม และอาจทำให้คุณเจอ Insight ที่ไม่เคยคิดถึงมาก่อนเลยก็ได้
อย่ารอให้เกมเริ่มก่อนถึงค่อยเล่น
Wargaming คือเครื่องมือของคนที่ไม่อยากแค่ “เล่นตามเกม” แต่ต้องการ “ออกแบบเกม” เอง
ในยุคที่ความเร็วสำคัญพอ ๆ กับความถูกต้อง การมีแผนสำรองที่ผ่านการทดสอบแล้ว คือแต้มต่อที่องค์กรหรือแม้แต่ตัวคุณเองควรมีติดตัวไว้ตลอดเวลา เพราะสุดท้ายแล้ว คนที่วางแผนล่วงหน้าเท่านั้น ถึงจะเป็นคนที่ควบคุมเกมได้จริง ๆ
คำถามคือ วันนี้คุณยังเล่นบทตัวเองในเกมอยู่ หรือเริ่มมองเกมในมุมของคู่แข่งแล้ว?
หากบทความนี้ช่วยให้คุณเข้าใจ Wargaming ได้มากขึ้น อย่าลืมแชร์ให้ทีมของคุณ หรือคนที่กำลังทำแผนสำคัญในปีนี้ เพราะบางที… สิ่งที่เรายังไม่ทันได้คิด อาจเป็นสิ่งที่คนอื่นกำลังลงมือทำอยู่แล้ว
หากต้องการจัด Workshop หรือให้ทีมได้ลองเล่น Wargaming แบบจริงจัง The Strategist มีพาร์ทเนอร์พร้อมช่วยออกแบบและนำเกมให้คุณ ลองติดต่อเราเข้ามาได้เลย
แล้วเจอกันบนสนามกลยุทธ์